หากเราพูดกับคนสมัยก่อนว่าวันหนึ่งผู้คนจะซื้อสินค้ากันโดยไม่ต้องยื่นเงินสด เราอาจโดนบอกว่าเพ้อเจ้อ แต่ทุกวันนี้สิ่งนั้นกลับเป็นไปได้ ด้วยการจ่ายเงินหลากหลายรูปแบบ ที่ค่อยๆ เปลี่ยนประเทศไทยให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่อาจพลิกโฉมหน้าของการซื้อขายของไทยได้ตลอดกาล
ทำความรู้จักกับสังคมไร้เงินสด
สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) คือสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงการจับจ่ายใช้สอย ไม่ได้ใช้เงินสดอย่างธนบัตรหรือเหรียญมาใช้ในการแลกเปลี่ยนอีกต่อไป แต่เน้นไปในการใช้ระบบ Online Payment หรือการจ่ายเงินออนไลน์, จ่ายเงินผ่าน QR Code, การโอนเงินผ่านระบบธนาคาร หรือใช้บัตรเดบิต-เครดิต ซึ่งในปัจจุบันมีการใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ทำไมสังคมไร้เงินสดจึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วแม้ว่าจะเป็นเรื่องใหม่มาก นี่คือจุดเด่นของสังคมไร้เงินสด
7 จุดเด่นของสังคมไร้เงินสด
1.ง่ายต่อการจัดการการเงิน
การทำธุรกรรมภายใต้สังคมไร้เงินสด ไม่ว่าจะจากบัตรเครดิตหรือการใช้จ่ายผ่าน Online Payment ย่อมมีบันทึกการเบิกจ่ายอยู่แล้ว จึงง่ายต่อการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละเดือนมากกว่าการใช้เงินสด อีกทั้งยังสามารถรับรู้ถึงความผิดปกติของการใช้เงินได้ทันทีด้วยการเแจ้งเตือนของแอปพลิเคชั่นต่างๆ หรือการตรวจสอบเส้นทางการเงินของตัวเองย้อนหลัง ไม่ว่าจะตัวผู้จ่ายเงินหรือพ่อค้าแม่ค้าก็ตาม
2.เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค
สังคมไร้เงินสดไม่ได้จำกัดว่าคนๆ หนึ่งจะต้องจำกัดวิธีจ่ายเงินออนไลน์เพียงวิธีเดียว แต่มีวิธีที่มากมายหลายหลาก แล้วแต่ว่าใครจะสะดวกแบบไหน ยกตัวอย่างเช่น
- บัตรเครดิต-เดบิต
- แอปพลิเคชั่น Mobile Banking
- การหักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ (ECS)
เป็นต้น
ซึ่งการใช้จ่ายแต่ละรูปแบบก็จะมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันออกไป โดยผู้ให้บริการแต่ละรายก็จะมีโปรโมชั่นของตัวเอง เช่น Cashback, ส่วนลดร้านอาหาร หรือส่วนลดหากใช้ซื้อของออนไลน์ เปิดโอกาสผู้บริโภคสามารถเลือกวิธีใช้จ่ายที่เหมาะสมกับตัวเอง ทั้งวิธีการและโปรโมชั่น
3.สะดวกต่อการใช้จ่าย
หากเป็นสมัยก่อนการโอนเงินแต่ละครั้งคงจำเป็นต้องไปที่ธนาคารหรือตู้ ATM แต่ในปัจจุบันขอแค่มีมือถือเครื่องเดียวก็สามารถเลือกซื้อสินค้า โอนเงิน รอรับของได้เสร็จสรรพ เพิ่มความสะดวกในการใช้จ่าย ลดค่าเดินทางของผู้บริโภคได้อีกด้วย
4.ง่ายต่อการแลกเปลี่ยนค่าเงิน
การเข้ามาของสังคมไร้เงินสดกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมาก เพราะเมื่อเหล่าธนาคารเข้ามาทำระบบเงินออนไลน์และสนับสนุนเรื่องของ Cashless ย่อมต้องรวมถึงการแลกเปลี่ยนค่าเงินด้วย ทำให้ผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนค่าเงินได้ง่ายดายขึ้นโดยไม่ต้องผ่านร้านตัวกลาง เพียงแค่ใช้แอปพลิเคชั่นก็สามารถแลกเปลี่ยนเงินเป็นอีกสกุลได้แล้ว
5.ลดความเสี่ยงทางสุขภาพ
ธนบัตรเป็นสิ่งที่มีเชื้อโรคสะสมมากที่สุดอย่างหนึ่งในสังคมมนุษย์ และตัวของธนบัตรสามารถหมุนเวียนผ่านมือไปได้วันละหลายต่อหลายครั้ง แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคอยู่ไม่น้อยเลย การเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ทำให้การจ่ายเงินออนไลน์หรือจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นมีมากขึ้น ลดการใช้ธนบัตรให้น้อยลง ลดความเสี่ยงทางสุขภาพและการกระจายเชื้อโรคผ่านธนบัตรได้เป็นอย่างดี
6.ลดอาชญากรรม
การจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชั่นจะลดความเสี่ยงในการถูกจี้ปล้นกรณีที่อาชญากรต้องการเงินสด อีกทั้งยังลดโอกาสความผิดพลาดกรณีทอนผิด จ่ายเงินผิด เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยรวมของประชาชนได้มากขึ้นอีกด้วย
7.ปลูกฝังจิตสำนึกด้านการใช้เงิน
เรื่องนี้เป็นผลกระทบทางอ้อมสำหรับคนจำนวนหนึ่ง เนื่องจากการอยู่ในสังคมไร้เงินสดจะทำให้เราเห็นค่าใช้จ่ายรายเดือนของตัวเองเป็นตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้น และสามารถทำรายรับรายจ่ายได้ง่ายขึ้น จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นจิตสำนึกในการใช้เงินในแต่ละเดือนได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการจ่ายเงินในแต่ละวันโดยไม่เห็นผลรวมว่าเราจ่ายเงินไปมากขนาดไหน
ผลกระทบต่อสังคมไร้เงินสดต่อประเทศไทยและการปรับตัว
สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) เป็นเรื่องที่สะดวกสบายก็จริง แต่แน่นอนว่าการพัฒนาในเรื่องนี้นี้ย่อมส่งผลกระทบต่อคนจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะร้านค้าต่างๆ รวมถึงร้านรับแลกเงิน ที่อาจต้องมีการเปิดกว้างด้านการชำระเงินด้วยทางอื่นมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อขายของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นร้านเล็กหรือร้านใหญ่
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผู้ใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสังคมไร้เงินสดในประเทศไทยยังคงน้อยอยู่ แม้เติบโตกว่าหลายๆ ประเทศ แต่ก็เท่ากับว่าประเทศไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุงระบบ ทำให้สังคมไร้เงินสดกระจายไปได้อย่างทั่วถึงได้ เพื่อที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะส่งผลดีกับคนในประเทศได้มากที่สุด