ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่แพร่หลายนักในประเทศไทย และหนึ่งในเหตุผลหลักที่ผู้ขับขี่ยังไม่เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าคือระยะเวลาการชาร์จไฟฟ้าที่ใช้เวลานาน (เมื่อเทียบกับระยะเวลาในการเติมน้ำมัน) แล้วความกังวลนี้ควรจะเริ่มต้นแก้ไขอย่างไร?
เมื่อหันไปดูประเทศซีกโลกตะวันตกซึ่งเป็นผู้นำด้านการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน มีการกำจัดความกังวลเหล่านี้ไปด้วยการสร้างเครือข่ายการชาร์จที่เหนือกว่า Fast Charge ทั่วไป (Beyond Fast Charge) ตัวอย่างเช่น Tesla Inc. ได้สร้างเครือข่าย Supercharger ที่ประกอบไปด้วย Supercharger Connector มากกว่า 6,000 เครื่องในสหรัฐอเมริกา โดยมีกำลังในการชาร์จ 145 -250 kW ซึ่งกำลังขนาดดังกล่าวสามารถชาร์จไฟเพื่อให้รถวิ่งได้ถึง 100 ไมล์ (ประมาณ 160 กม.) และที่สำคัญลดเวลาในการชาร์จไปได้ 15-25 นาที การมีเครือข่าย Supercharger นี้จึงทำให้ Tesla มีข้อได้เปรียบกว่าผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายอื่น
ไม่เพียง Tesla เท่านั้นที่มีการสร้างเครือข่าย Beyond Fast Charge ทางด้าน Electrify America (บริษัทลูกของ Volkswagen AG) ก็ได้ลงทุนสร้างเครือข่าย Ultra-fast Charger เป็นเงิน 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเปิดให้บริการภายใน ค.ศ. 2026 (พ.ศ. 2569) และในส่วนประเทศฝั่งทวีปยุโรปเองก็ริเริ่มเครือข่าย Ionity Fast-charging ที่มีแผนให้บริการในค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) โดยใช้เครื่องชาร์จที่มีกำลังในการชาร์จ 350 kW ด้วยกำลังขนาดดังกล่าวสามารถชาร์จไฟให้รถวิ่งได้ถึง 100 กม.ด้วยการชาร์จเพียง 4 นาทีเท่านั้น! ทั้งนี้เครือข่ายดังกล่าวมีบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ เช่น Hyundai และ Kia ประกาศเข้าร่วมแล้ว
อย่างไรก็ดี เทคโนโลยี Beyond Fast Charge จะสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุดก็ต่อเมื่อยานยนต์ไฟฟ้ามีระบบไฟฟ้าที่สามารถรองรับกำลังในการชาร์จได้ด้วย กล่าวคือ เครือข่าย Ionity Fast-charging ที่จะใช้ประโยชน์ได้สูงสุดก็ต่อเมื่อยานยนต์ไฟฟ้าเป็นระบบไฟฟ้า 800 V เพื่อรองรับกำลังในการชาร์จ 350 kW แต่รถยนต์ไฟฟ้าส่วนมากในปัจจุบันยังใช้ระบบไฟฟ้า 400 V อยู่ มีเพียงยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม เช่น Porsche Taycan, Aston Martin Rapide-E และ Audi e-tron GT เท่านั้นที่ได้รับการยืนยันในการเปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้า 800 V ทั้งนี้ Hyundai และ Kia ได้ประกาศแล้วว่าจะเปลี่ยนยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นระบบ 800 V เช่นกัน แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นรุ่นใด
จะเห็นได้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเร่งพัฒนาระบบลดเวลาชาร์จไฟหวังจูงใจผู้บริโภคเพื่อแก้ไขปัญหาการชาร์จไฟฟ้าที่ใช้เวลานานของรถยนต์ไฟฟ้า หากสามารถแก้ปัญหาส่วนนี้ได้ ไม่แน่ว่าเราอาจเห็นการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยแพร่หลายมากขึ้นภายในเร็ววันก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก BNEF
จัดทำโดย โครงการอิเล็คทริคซิตี้แวลูเชน
