สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ทำให้มีผลกระทบต่อหลายๆด้าน โดยเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ และยังมีแนวโน้มที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดกันอย่างต่อเนื่อง หลายประเทศเริ่มใช้มาตรการแก้ไขควบคู่ไปกับการป้องกันในหลากหลายมิติ โดยทางประเทศจีนได้นำเทคโนโลยีรถยนต์ส่งของอัตโนมัติไร้คนขับมาประยุกต์ใช้บนท้องถนนในนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัท เจดี โลจิสติคส์ (JD Logistics) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ด้าน e-commerce ของจีนได้วางแผนและนำเทคโนโลยี 5G มาผสมผสานเข้ากับส่วนของโลจิสติคส์ ซึ่งก่อให้เกิดรถยนต์ส่งของอัตโนมัติไร้คนขับ เพื่อนำมาใช้ส่งไปยังโรงพยาบาลในนครอู่ฮั่นเพื่อสนับสนุนการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา อีกทั้งยังช่วยลดการแพร่ระบาดและความเสี่ยงในการติดเชื้อของไวรัส ช่วยลดอัตราการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งเสริมสร้างประสิทธิภาพในการขนส่งพัสดุในประเทศอีกด้วย
รถยนต์อัตโนมัติไร้คนขับดังกล่าวใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน สามารถขนพัสดุหรือกล่องได้สูงสุด 24 ชิ้น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ขนส่งหลักในครั้งนี้ คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาโรคเพื่อผู้ติดเชื้อไวรัส รถยนต์นี้จะวิ่งในรัศมี 600 เมตร ซึ่งมีโรงพยาบาลที่ใช้บริการอยู่เกือบ 100 แห่งในนครอู่ฮั่น ขบวนการใช้รถยนต์อัตโนมัตินี้สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และหยุดรถขณะมีสัญญาณไฟจราจรแจ้งเตือน พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบสถานะและตำแหน่งของรถยนต์ และสามารถใช้รถยนต์สื่อสารได้ทั้งเสียงและวีดีโอคอลกับผู้รับปลายทางเมื่อรถยนต์ถึงจุดหมาย เพื่อทำให้แน่ใจว่าการขนส่งนั้นดำเนินไปได้อย่างดี
เหตุนี้รถยนต์อัตโนมัติไร้คนขับดังกล่าวจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์การขนส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในขณะนี้ ในอนาคตหลังจากสถานกาณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาผ่านพ้นไป ทางบริษัทผลิตรถยนต์อัตโนมัติไร้คนขับและบริษัทโลจิสติคส์จะนำรถยนต์ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้กับสิ่งของและพัสดุอื่นๆนอกเหนือจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น วัตถุดิบในการทำอาหาร รวมไปถึงบริการส่งอาหารสำเร็จรูป เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการใช้รถยนต์มากขึ้น อีกทั้งยังลดต้นทุนในการผลิตรถยนต์และปัญหาการใช้ที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ด้วย
ที่มา: CNN, Synced China
จัดทำโดย โครงการอิเล็คทริคซิตี้แวลูเชน
