การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ‘COVID-19’ เป็นปัจจัยที่คุกคามเศรษฐกิจโลกอย่างหนักในขณะนี้ และส่งผลมากกว่าเมื่อครั้งเกิดการระบาดของโรคซาร์เมื่อ 17 ปีก่อน เนื่องจากในปัจจุบันจีนมีบทบาทสำคัญและเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลก การระบาดของ COVID-19 จึงส่งผลให้บรรยากาศการดำเนินธุรกิจต่างๆ ในจีนและประเทศคู่ค้าของจีนต้องอยู่ในภาวะที่ซบเซาลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ก็เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน โดยศูนย์รวมการผลิตรถยนต์ในจีนตั้งอยู่ใน มณฑลเหอหนาน มณฑลหูหนาน มณฑลอานฮุย มณฑลกวางตุ้ง มณฑลเจ้อเจียง และมณฑลหูเป่ย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า
ในทางกลับกันความหวาดกลัวของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าในประชากรจีนนั้น กลับส่งผลให้ยอดขายและความต้องการรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยประชาชนจีนเริ่มมีความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าการเดินทางโดยรถสาธารณะและการใช้บริการ Car sharing เพราะการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นทางเลือกในการหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า นอกจากนี้การเดินทางแบบ Micro Mobility หรืออุปกรณ์เดินทางที่มีน้ำหนักเบา เช่น e-bike สกูตเตอร์ ยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยม และบางองค์กรของจีนได้เริ่มสนับสนุนให้พนักงานใช้การเดินทางแบบ Micro Mobility โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
สำหรับตลาดรถยนต์ไทยก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยช่วงที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นช่วงไตรมาส 1 ของปี 2563 และคาดว่าปริมาณการผลิตรถยนต์ในปีนี้ น่าจะขยับลดลงไปแตะระดับ 1.9 ล้านคัน หรือหดตัวลงกว่า 6% จากปีที่แล้ว ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไทยจึงได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม อย่างไรก็ตามหากไทยสามารถสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการตลาดและการลงทุนโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าได้ อาจเป็นโอกาสให้ไทยสามารถดึงดูดการลงทุนจากทั้งค่ายรถและผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่อยากกระจายความเสี่ยงออกจากจีนให้เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้นได้
จากผลกระทบของเชื้อไวรัสโคโรน่าดังกล่าวข้างต้น ทั้งทางรัฐบาลจีนและรัฐบาลไทยได้เตรียมวางแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยสนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เช่น การติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV เป็นต้น ทางเราก็ขอเอาใจช่วยให้สถานการณ์วิกฤต Covid 19 นี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ
Source: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, Bloomberg NEF, ฐานเศรษฐกิจ
จัดทำโดย โครงการอิเล็คทริคซิตี้แวลูเชน
