Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors

ผลกระทบจากไฟป่า ปัญหาภัยธรรมชาติที่ไม่อาจประเมินค่าได้

17 มี.ค. 2020
SHARE

ไฟป่าเกิดขึ้นและลุกลามได้อย่างไร

ไฟป่า คือ ไฟที่เผาไหม้ในบริเวณป่าและไม่สามารถควบคุมได้ โดยสามารถแบ่งสาเหตุออกได้เป็นสองรูปแบบใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ 

  1. สาเหตุตามธรรมชาติ เช่น การลุกไหม้ด้วยตัวเองในสภาวะอากาศแห้งและร้อนจัด การเกิดฟ้าผ่าในบริเวณป่า หรือผลกระทบต่อเนื่องจากภูเขาไฟระเบิด 
  2. สาเหตุที่เกิดจากมนุษย์ เช่น การตั้งใจวางเพลิง การเผาเพื่อทำการเกษตร กองไฟหรือก้นบุหรี่ที่ดับไม่สนิท หรือประกายไฟจากสายไฟฟ้าและเครื่องจักร

แม้ว่าจุดกำเนิดของไฟป่าจะเกิดขึ้นจากไฟที่ไหม้ต้นไม้เพียงไม่กี่ต้น แต่จากจุดนั้นเป็นต้นไป ไฟป่าสามารถลุกลามไปได้อีกหลายร้อยตารางเมตร เพราะความร้อนจากไฟที่ไหม้จะแผ่ออกไปรอบทิศทาง และทำให้อุณหภูมิในบริเวณดังกล่าวสูงขึ้น จนกระทั่งถึงจุดที่เชื้อเพลิงอย่างซากต้นไม้หรือหญ้าแห้งสามารถลุกติดไฟได้เอง แม้ว่าเปลวไฟจะยังลามมาไม่ถึงก็ตาม  

โดยความรุนแรงของไฟป่าขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นที่ โดยในเขตพื้นที่ป่าหนาแน่น ไฟป่าสามารถลุกลามได้ถึง 10.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนพื้นที่โล่งอย่างทุ่งหญ้าความเร็วในการลุกลามจะสูงถึง 22 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ สภาพอากาศโดยเฉพาะทิศทางลม และปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ยังมีส่วนช่วยให้ไฟไหม้ในพื้นที่เล็กๆ สามารถโหมกระหน่ำรุนแรงจนกลายเป็นไฟป่าขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถควบคุมได้

และในปัจจุบันที่ภาวะโลกร้อนทำให้สภาวะอากาศทั่วโลกแปรปรวนยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะในอากาศในหน้าร้อนที่เกิดขึ้นยาวนานกว่าปกติ อีกทั้งยังทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นและความแห้งแล้งเพิ่มมากขึ้น สภาวะอากาศเช่นนี้เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีให้ไฟป่าเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ลุกลามได้มากกว่าเดิมและควบคุมได้ยากกว่าเดิม

ผลกระทบของไฟป่า

ไฟป่าก่อให้เกิดผลลัพธ์สองประการที่สำคัญ คือ การเผาไหม้ในปริมาณมหาศาล และการทำลายพื้นที่ป่าในบริเวณกว้าง และก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตั้งแต่ใต้พื้นดินจนถึงชั้นบรรยากาศเหนือท้องฟ้าขึ้นไป โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากไฟป่านั้นประกอบไปด้วย

ผลกระทบต่อสุขภาพ

การเผาไหม้ทำให้เกิดเขม่าเป็นจำนวนมาก ทั้งเขม่าขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และเขม่าขนาดเล็กที่เทียบเท่าได้กับฝุ่น PM10 และฝุ่น PM2.5 ซึ่งเขม่าเหล่านี้สามารถลอยไปไกลจากจุดที่เกิดไฟไหม้ได้นับหลายร้อยกิโลเมตร และสามารถลอยตัวในอากาศได้นานนับเดือน

เขม่าจากการเผาไหม้เป็นสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทั้งต่อผิวหนังและต่อระบบหายใจ และหากร่างกายสะสมเขม่าเหล่านี้เป็นจำนวนมากอาจก่อให้เกิดอาการหัวใจวาย หลอดเลือดในสมองตีบ หอบหืดกำเริบ และมะเร็ง รวมถึงยังมีส่วนส่งผลต่อพัฒนาการในเด็กอีกด้วย ผลกระทบทางสุขภาพจากไฟป่าจึงมีทั้งที่เห็นผลทันที และจะเห็นผลก็ต่อเมื่อผ่านไปแล้วหลายสิบปี

นอกจากนี้ การเผาไหม้ยังก่อให้เกิดสารที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างคาร์บอนมอนออกไซด์ (CO) ฟอร์มาลดีไฮด์ อะโครเลอีน และเบนซีน ซึ่งสารเหล่านี้จะลอยไปในอากาศพร้อมกับควันที่เกิดจากการเผาไหม้ และก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อมนุษย์ด้วยเช่นกัน

ผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ

ไฟป่าคือเป็นตัวการสำคัญในการทำให้ภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงมากขึ้น เพราะไฟป่าเป็นสาเหตุสำคัญของการทำลายพื้นที่ป่า ซึ่งช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการหายใจของสิ่งมีชีวิต การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างถ่านหิน น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ และจากกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม

การเผาไหม้ยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณมหาศาล ตัวอย่างเช่นไฟป่าในเขตอาร์กติกที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม 2019 ได้สร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมากถึง 140 เมกะตัน หรือเทียบเท่ากับไอเสียที่ปล่อยจากรถยนต์จำนวนถึง 36 ล้านคันเลยทีเดียว

ผลกระทบไฟป่า

ผลกระทบต่อระบบนิเวศ

สำหรับระบบนิเวศนั้นไฟป่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย อาจจะเป็นที่น่าแปลกใจสำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับป่าบางแห่ง ไฟป่าจะเป็นการเตรียมพื้นที่ให้ป่ารุ่นใหม่สามารถเติบโตแทนที่ป่าเดิม เช่น ป่าสนในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ ที่ไฟป่าจะช่วยทำลายซากต้นไม้เก่าให้หมดไปจากพื้นที่ และความร้อนที่ระอุอยู่ในดินหลังจากเกิดไฟป่าจะกระตุ้นให้เมล็ดพันธุ์ที่อยู่ใต้ดินงอกขึ้นเป็นต้นไม้ใหม่ต่อไป

ในขณะเดียวกันไฟป่าอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อระบบนิเวศ เพราะไฟป่าทำให้สิ่งมีชีวิตภายในป่าสูญพันธุ์ ทั้งจากการที่สิ่งมีชีวิตต้องล้มตายจากไฟไหม้ หรือจากผลกระทบที่เกิดหลังจากไฟป่าดับลง เช่นการที่สิ่งมีชีวิตสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย หรือความอดอยากที่เกิดขึ้นหลังจากสภาพป่าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ผลกระทบต่อสภาพทางภูมิศาสตร์

ไฟป่ายังทำให้เกิดการทำลายล้างพื้นที่ในบริเวณกว้าง เพราะไฟป่าจะเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปกคลุมหน้าดิน รวมไปถึงวัตถุที่ยึดเกาะกับหน้าดิน เช่น พุ่มไม้ รากไม้ และหญ้าชนิดต่างๆ และความร้อนไฟป่ายังทำให้น้ำระเหยออกไปจากชั้นดินอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ดินแตกระแหงมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ คุณภาพของดินในบริเวณที่เกิดไฟป่าจะลดลง และหน้าดินในพื้นที่นั้นจะถูกกัดเซาะมากขึ้น นอกจากนี้ ไฟป่ายังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโคลนถล่มและน้ำท่วมฉับพลันในหน้าฝนให้กับบริเวณที่เกิดไฟป่าอีกด้วย

ผลกระทบอื่นๆ

ในปัจจุบันที่มนุษย์ใช้ชีวิตประจำวันเข้าไปใกล้กับบริเวณป่ามากขึ้น ไฟป่าจึงก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะเมื่อไฟป่าลุกลามเกินเขตป่าเข้ามาในเขตที่อยู่อาศัยหรือพื้นที่การเกษตร อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินโดยตรง

ไฟป่ายังก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ถูกรบกวนจากการเกิดไฟป่า อย่างเช่นการที่ไม่สามารถออกจากบ้านไปใช้ชีวิตตามปกติ หรือการปิดน่านฟ้าจากทัศนวิสัยที่ไม่ดี นอกจากนี้ รัฐบาลยังต้องเสียเงินไปกับการดับไฟป่าและการฟื้นฟูบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าอีกด้วย

สรุป

นอกจากการสูญเสียพื้นที่ป่า ไฟป่ายังทำให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ทั้งผลกระทบต่อสุขภาพ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และแม้ว่าไฟป่าจะมอดดับลงไปแล้ว แต่คุณยังคงต้องอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นไปอีกนานนับปี โดยที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แต่อย่างใด

 

 

ติดตามข่าวสารและคอนเทนต์ดีๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมที่คุณไม่ควรพลาด

ได้ที่ Facebook PTT ExpresSo

 

New call-to-action
  • SUBSCRIBE TO BE
    THE FIRST INNOVATOR.

logo