E-Bike หรือจักรยานไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจไปทั่วโลก เนื่องจากเป็นรูปแบบของยานพาหนะที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน เมืองใหญ่ๆ หลายเมืองเริ่มหันมาใช้ E-Bike เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและมลพิษทางอากาศ เนื่องจากการคมนาคมขนส่งถือเป็นแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกและเป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อน การสนับสนุน E-Bike ให้เป็นยานพาหนะทางเลือกในการเดินทางแบบคาร์บอนต่ำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
บทความนี้ PTT ExpresSo จะพาไปทำความรู้จักว่า E-Bike คืออะไร และมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
E-Bike คืออะไร
E-Bike (Electric Bicycle) คือ จักรยานที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อน ปัจจุบัน E-Bike ที่มีจำหน่ายทั่วโลกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- ประเภท Pedelec (Pedal Electric Cycle) เป็นจักรยานที่ช่วยเสริมกำลังการปั่นของผู้ขับขี่
- ประเภท Moped Style เป็นจักรยานที่เพิ่มคันเร่งและผสานฟังก์ชันสไตล์จักรยานยนต์เข้าไว้ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม E-Bike ทั้งสองประเภทยังคงความสามารถในการให้ผู้ขับขี่ออกแรงปั่นได้ด้วยตัวเอง จึงไม่จัดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Motorcycle)
นอกจากนี้ E-Bike ยังติดตั้งด้วยแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟได้จึงช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางได้เร็วและไกลขึ้น โดยทั่วไป E-Bike สามารถใช้ความเร็วเฉลี่ย 25-32 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ในบางรุ่นที่แบตเตอรี่มีกำลังสูงอาจใช้เดินทางได้มากกว่า 45 กิโลเมตร/ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
แม้ว่า E-Bike จะไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ใหม่ล้ำยุค เพราะสิทธิบัตรแรกของจักรยานไฟฟ้ามีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว แต่เหตุผลที่มันเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่มีประโยชน์หลายประการและช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ
ตามรายงาน TMT Predictions 2020 ของ Deloitte คาดการณ์ว่า ภายในสามปีข้างหน้า (2020-2023) E-Bike จะขายได้ทั่วโลกมากถึง 130 ล้านคัน และภายในปี 2023 จะมี E-Bike ประมาณ 300 ล้านคันอยู่บนท้องถนนทั่วโลก
ถ้าอยากรู้ว่า ทำไมผู้คนถึงสนใจเปลี่ยนมาใช้ E-Bike แทนรถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนกันมากขึ้น เราได้รวบรวมประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ E-Bike ในทุกแง่มุมมาให้คุณแล้ว ดังนี้
รวมประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมของ E-Bike
1. ลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์
E-Bike ต่างจากยานพาหนะรูปแบบอื่น เช่น รถยนต์ รถบรรทุก และรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ในขณะที่ E-Bike ใช้กำลังคนและพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ในการขับเคลื่อน จึงช่วยลดการปล่อยมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเป็นศูนย์
2. ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียง
ขณะขับขี่ E-Bike อาจมีเสียงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเสียงเลย จึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงซึ่งอาจสร้างความรำคาญให้กับผู้คน โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในย่านชุมชนเมืองหรือผู้สัญจรบนท้องถนน
3. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
แม้ว่าแบตเตอรี่ของ E-Bike อาจกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ในวันใดวันหนึ่งเมื่อเสื่อมสภาพ แต่ก็มีข้อดีที่เหนือกว่าแบตเตอรี่ของรถยนต์ทั่วไป คือใช้ส่วนประกอบของลิเธียมไอออนและปลอดสารตะกั่วซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปจึงช่วยลดการสร้างขยะให้กับโลก เพราะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่บ่อยๆ
4. ป้องกันความเสียหายต่อถนน
เนื่องจาก E-Bike เป็นยานพาหนะที่มีน้ำหนักเบาจึงสร้างความเสียหายต่อถนนน้อยกว่าการคมนาคมขนส่งรูปแบบอื่นๆ เช่น รถยนต์และรถบรรทุกซึ่งมีน้ำหนักมาก เมื่อถนนเกิดพังเสียหายก็จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรหนักในการซ่อมแซม ซึ่งเครื่องจักรเหล่านี้มีการปล่อยมลพิษสูง ด้วยเหตุนี้การขี่ E-Bike จึงเป็นวิธีที่ช่วยลดมลภาวะและส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมทางอ้อม
5. ประหยัดพลังงานได้มากกว่า
ผลการศึกษาล่าสุดในประเทศสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ E-Bike เปรียบเทียบกับยานพาหนะแบบดั้งเดิมพบว่า E-Bike
- ประหยัดพลังงานมากกว่ารถ SUV หรือรถ 4WD (Four-Wheel Drive) ถึง 18 เท่า
- ประหยัดพลังงานมากกว่ารถเก๋ง (Saloon Car) 13 เท่า
- ประหยัดพลังงานมากกว่ารถราง (Railcar) ถึง 6 เท่า
6. ใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
E-Bike สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยพลังงานหมุนเวียนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ได้ 100% จึงไม่ก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ รวมทั้งกระแสความนิยมยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่าง E-Bike ยังถือเป็นแนวโน้มที่ดีต่อโลก เพราะหมายความว่าภาคการคมนาคมขนส่งกำลังเปลี่ยนผ่านจากยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถใช้พลังงานหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย E-Bike เป็นหนึ่งในยานพาหนะทางเลือกที่กำลังมาแรง
7. ช่วยลด Carbon Footprint ระดับบุคคล
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า E-Bike ช่วยลดการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์และสามารถใช้พลังงานหมุนเวียนได้ 100% แม้ว่าการชาร์จแบตเตอรี่ E-Bike อาจส่งผลให้เกิดคาร์บอนเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าปล่อยมลพิษต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้น การเปลี่ยนมาใช้ E-Bike จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับบุคคล และถ้าหลายๆ คนพร้อมใจกันเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก็จะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยบรรเทาวิกฤตของปัญหาโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน
สรุป
ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก สาเหตุหลักมาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการคมนาคมขนส่งที่มากเกินไปโดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 5 ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจำนวนมากจึงเริ่มมองหายานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่ง E-Bike ถือเป็นหนึ่งในยานพาหนะทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยม เพราะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ และมีการติดตั้งแบตเตอรี่ที่ชาร์จไฟจากพลังงานหมุนเวียนได้ 100%
นอกจากนี้ E-Bike ยังไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางเสียง ไม่สร้างความเสียหายให้กับถนน และประหยัดการใช้พลังงานได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป จึงถือเป็นโซลูชันของยานพาหนะที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ติดตามข่าวสารและคอนเทนต์ดีๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมที่คุณไม่ควรพลาด
ได้ที่ Facebook PTT ExpresSo
