เป้าหมายของเทคโนโลยีสีเขียว คือ การปกป้องสิ่งแวดล้อมและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ก่อนหน้านี้ ทั้งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บริษัทจำนวนมากเริ่มตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินธุรกิจอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับผู้คนในระดับครัวเรือนที่พยายามนำเทคโนโลยีสีเขียวมาปรับใช้เพื่อให้บ้านประหยัดพลังงานมากขึ้น
บทความนี้ PTT ExpresSo ได้รวมตัวอย่างเทคโนโลยีสีเขียวที่จะทำให้บ้านของคุณประหยัดพลังงานและค่าไฟฟ้า แถมยังช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้นอีกด้วย
7 เทคโนโลยีสีเขียวช่วยบ้านประหยัดพลังงาน
ในชีวิตประจำวัน เราทุกคนจำเป็นต้องใช้พลังงานภายในบ้านจำนวนมากทั้งในรูปแบบของระบบทำความเย็นและความร้อน น้ำประปา รวมไปถึงการใช้ไฟฟ้า ต่อไปนี้คือตัวอย่างเทคโนโลยีสีเขียว 7 รูปแบบที่สามารถประยุกต์ใช้กับบ้านของคุณเพื่อสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
1. แผงโซลาร์เซลล์
แผงโซลาร์เซลล์เป็นการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับบ้านของคุณ แผงโซลาร์เซลล์สมัยใหม่มีการออกแบบที่ทันสมัย ประสิทธิภาพสูงขึ้นและราคาถูกกว่ารุ่นก่อน สามารถติดตั้งได้เกือบทุกจุดของบ้านที่มีแสงแดดส่องถึงโดยจะติดตั้งเองหรือจ้างคนมาติดตั้งให้ก็ได้ หลังจากนั้น คุณจะได้รับประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยทดแทนการใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นและช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาว จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับความต้องการด้านพลังงานภายในบ้านของทุกคน
2. ถังเก็บน้ำฝน
ถังเก็บน้ำฝนเป็นเทคโนโลยีของระบบเก็บน้ำฝนที่เชื่อมต่อกับชั้นดาดฟ้า น้ำที่สะสมไว้สามารถใช้เช็ดล้างทำความสะอาดบ้านหรือชักโครก นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์อย่างมากหากคุณมีสวนหลังบ้าน เพราะสามารถใช้น้ำฝนรดต้นไม้แทนน้ำประปาผ่านทางก๊อกน้ำที่ด้านล่างของถังได้ทุกเมื่อที่ต้องการ จึงช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าน้ำประปาได้มากขึ้นอีกด้วย
3. เครื่องทำน้ำอุ่นพลังงานแสงอาทิตย์
เครื่องทำน้ำอุ่นทั่วไปใช้ไฟฟ้าหรือก๊าซธรรมชาติเพื่อทำความร้อนให้กับน้ำ ทุกครั้งที่คุณใช้เครื่องทำน้ำอุ่นจึงหมายถึงพลังงานและเงินที่ต้องสูญเสียไป ในขณะที่เครื่องทำน้ำอุ่นพลังงานแสงอาทิตย์ใช้หลักการรวบรวมพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์เพื่อให้ความร้อนกับน้ำ โดยน้ำอุ่นที่ได้จะถูกเก็บไว้ในถังที่มีฉนวนเหมือนเครื่องทำน้ำอุ่นทั่วไปจนกว่าคุณจะเปิดใช้งาน แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการติดตั้งจะแพงกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นแบบเดิม แต่ช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาวได้ 50-80% จึงถือเป็นวิธีลดต้นทุนด้านพลังงานอย่างยั่งยืน
4. โถสุขภัณฑ์แบบคู่
รู้หรือไม่ว่าโถชักโครกทั่วไปใช้น้ำเฉลี่ย 4.8 ลิตรต่อครั้ง ทำให้เป็นหนึ่งในจุดสิ้นเปลืองน้ำที่ใหญ่ที่สุดของบ้าน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถลดการใช้น้ำได้ด้วยการติดตั้งโถสุขภัณฑ์ระบบโลว์ฟลัชแบบคู่ ซึ่งจะช่วยให้คุณกดเลือกปริมาณน้ำที่เหมาะสมต่อการชำระล้างชักโครกในครั้งเดียว วิธีนี้นอกจากจะช่วยประหยัดน้ำยังลดค่าน้ำประปาให้กับบ้านของคุณได้อีกด้วย ทั้งนี้ คุณไม่จำเป็นต้องอัปเกรดระบบประปาภายในบ้านเพื่อติดตั้งโถสุขภัณฑ์แบบคู่ แต่อาจต้องจ้างช่างประปาให้ดำเนินการติดตั้งแทนคุณ
5. ฉนวนกันความร้อนจากวัสดุธรรมชาติ
ฉนวนกันความร้อนเป็นกุญแจสำคัญของการสร้างบ้านประหยัดพลังงานที่ยั่งยืน ปัจจุบัน มีฉนวนที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติหลายอย่าง เช่น ขนแกะ แฟลกซ์ (Flax) ป่าน เส้นใยไม้ หรือฉนวนเซลลูโลสที่มีสารประกอบอินทรีย์ต่ำซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เพราะผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียน สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิล รวมทั้งย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
6. รางปลั๊กไฟอัจฉริยะ
หลายคนมักเสียบปลั๊กอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้บ่อยทิ้งไว้เพื่อความสะดวก แต่รู้หรือไม่ว่าการกดปิดเครื่องไว้โดยไม่ดึงปลั๊กออก อุปกรณ์จะยังคงใช้พลังงานไฟฟ้าอยู่แม้จะเข้าสู่โหมดสแตนด์บายแล้วก็ตาม
รางปลั๊กไฟอัจฉริยะจึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์ควบคุมการตัดกระแสไฟฟ้า หากคุณใช้ปลั๊กพ่วงภายในบ้านอยู่แล้ว เพียงแค่เปลี่ยนแถบเหล่านั้นด้วยรางปลั๊กไฟอัจฉริยะ เมื่อคุณกดปิด รางปลั๊กไฟอัจฉริยะจะตัดกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งหมดที่อยู่บนแถบดังกล่าว จึงช่วยประหยัดเงินค่าไฟ ลดการใช้พลังงานและยังรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่งด้วย
7. เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ
การลงทุนด้านเทคโนโลยีสีเขียวที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างหนึ่งสำหรับบ้านของคุณ คือ เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับภูมิภาคที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในหลายฤดูกาลที่อาจส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น และต้องคอยปรับอุณภูมิภายในบ้านแทบทุกวัน
เครื่องควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะจะช่วยปรับอุณหภูมิในบ้านของคุณให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติและลดการสิ้นเปลืองพลังงาน เพราะสามารถตั้งค่าโปรแกรมเพื่อควบคุมอุณหภูมิห้องให้ไม่ร้อนหรือหนาวเย็นเกินไปในระหว่างวันที่คุณไม่อยู่ โดยจะเริ่มทำงานทันทีตั้งแต่คุณออกจากบ้านจนกระทั่งกลับถึงบ้าน
สรุป
แม้ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจะไม่สามารถย้อนกลับไปสู่จุดเดิมได้ แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสีเขียวที่ช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ให้เลวร้ายไปมากกว่านี้ คุณไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายเพื่อทำให้บ้านของคุณเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาจเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ เช่น การถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งานหรือใช้รางปลั๊กไฟอัจฉริยะ การแยกถังขยะรีไซเคิล เมื่อมีความพร้อมมากขึ้นค่อยเพิ่มนวัตกรรมอื่นๆ ที่มีราคาสูงขึ้น เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์และระบบหรือถังเก็บน้ำฝน ซึ่งการลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียวเหล่านี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินและพลังงาน รวมทั้งเป็นหนทางไปสู่การป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในอนาคต
ติดตามข่าวสารและคอนเทนต์ดีๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมที่คุณไม่ควรพลาด
ได้ที่ Facebook PTT Expresso
