ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicles) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น แม้ว่ารถ BEV ยังมีข้อจำกัดบางอย่าง โดยเฉพาะระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง
ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญต่อระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้ คือ ความจุของแบตเตอรี่รถยนต์ (Battery Capacity) โดยผู้ผลิตแบตเตอรี่กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีความจุเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ EV Charging Station หรือสถานีชาร์จไฟ ที่ยังคงต้องพัฒนาให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปพร้อมกับประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของการชาร์จและลดระยะเวลาการชาร์จรถยนต์ในแต่ละครั้ง
ในทศวรรษที่ผ่านมาเห็นได้ว่า ระยะทางที่รถ BEV วิ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2011 รถ BEV สามารถวิ่งได้เฉลี่ย 112 กิโลเมตรนั้น ในปี 2019 ที่ผ่านมา รถ BEV สามารถวิ่งได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 294 กิโลเมตร และในปี 2020 นี้ มีการคาดการณ์ว่ารถ BEV รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัว จะสามารถวิ่งได้ถึง 379 กิโลเมตร ทั้งนี้ BNEF คาดว่า ในอีก 9 ปีข้างหน้า (2029) รถ BEV จะสามารถวิ่งได้ระยะทาง 400-500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ในตอนนี้ระยะทางที่รถ BEV สามารถวิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งนั้น แตกต่างกันออกไปในแต่ละภูมิภาค โดยผู้ผลิตรถ BEV ในสหรัฐอเมริกาสามารถทำระยะทางเฉลี่ยได้ไกลมากที่สุด นำโดยผู้ผลิตอย่าง Tesla และ Rivian ที่พยายามพัฒนารถ BEV ให้วิ่งได้ระยะไกลเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศ รองลงมาได้แก่ ผู้ผลิตรถ BEV ในยุโรปและจีน แต่อย่างไรก็ตาม BNEF ได้คาดการณ์ว่า ผู้ผลิตรถ BEV ในประเทศจีน จะพัฒนาประสิทธิภาพของรถเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากทางรัฐบาลจีนได้ยกเลิกการให้เงินสนับสนุนรถ BEV ที่วิ่งได้ในระยะที่ต่ำกว่า 250 กิโลเมตร ดังนั้นผู้ผลิตในจีนจึงตั้งเป้าหมายจะผลิตรถ BEV ที่สามารถวิ่งได้มากกว่าเดิม เพื่อยังคงได้รับเงินสนับสนุนจากทางการจีนต่อไป
โดยภาพรวมแล้ว ผู้ผลิตรถ BEV ในทุกภูมิภาคกำลังพัฒนาระยะทางที่รถวิ่งได้ ให้ไกลขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อรถประเภทนี้มากขึ้น หากผู้ผลิตสามารถพัฒนารถ BEV ให้วิ่งได้ระยะที่ไกลขึ้น เราอาจจะเห็นรถ BEV บนท้องถนนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต ต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิง บทความ How Fast Is Electric Vehicle Range Rising? จาก BloombergNEF
จัดทำโดย โครงการอิเล็คทริคซิตี้แวลูเชน
