ทางเลือกใหม่ในการโดยสาร บริการ Ride Hailing ดีจริงหรือ
ธุรกิจให้บริการรถโดยสารผ่านแพลตฟอร์มหรือ ride–hailing ได้เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 นำโดย Grab และ Uber ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างล้นหลามและมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาที่น่าหงุดหงิดใจของคนไทยที่สะสมมานานจนถูกนำไปล้อเลียนจนกลายเป็นเรื่องขำขันไป อย่างการโบกรถแท็กซี่ที่เราโบกทีไรก็ไปเติมแก๊สหรือไปส่งกะทุกที นอกจากนี้ ทั้งสองค่ายก็ได้ทุ่มเงินทำการตลาดเพื่อจูงใจลูกค้าให้มาทดลองใช้และแย่งลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการของตนกันอย่างไม่เกรงใจกันเลย ซึ่งลูกค้าอย่างเราก็สบายเพราะได้โค้ดส่วนลดกันจนใช้ไม่ทัน
จนกระทั่งปี 2561 ทั้งสองค่ายได้ทำข้อตกลงทางธุรกิจให้ Uber ถอนตัวไปจากการทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แลกกับการถือหุ้นส่วนหนึ่งของ Grab หลังจากนั้น แม้จะมีแพลตฟอร์มอีกหลายรายพยายามเข้ามาทำธุรกิจ ride–hailing แต่ Grab ก็ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่มาโดยตลอด
ธุรกิจ ride–hailing แม้จะเป็นการสร้างความสะดวกสบายในการเรียกใช้บริการรถโดยสารให้แก่ลูกค้า แต่จากผลการศึกษาบ่งชี้ว่าธุรกิจนี้ส่งผลให้เกิดปัญหารถติดในเมืองมากขึ้น บางเมืองพบว่าสองในสามของการจราจรเพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจนี้ เนื่องจากคนขับจะต้องนำรถยนต์ออกมาบนท้องถนนเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับผู้โดยสาร บางเมืองถึงขนาดเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากคนขับที่ขับรถยนต์มารอผู้โดยสารเรียกในบริเวณตัวเมือง เพื่อลดความแออัดของการจราจร
ขณะเดียวกัน หลายเมืองที่เล็งเห็นปัญหานี้ก็ได้พัฒนาทางเลือกการเดินทางใหม่ที่ทั้งสะดวกสบายและไม่ทำให้การจราจรแย่ลง นั่นก็คือ on–demand transit ที่เป็นการนำเทคโนโลยี on–demand เหมือนกับของ ride–hailing โดยสามารถไปรับผู้โดยสารบริเวณที่ต้องการ แต่เปลี่ยนจากใช้รถยนต์ขนาดเล็กมาเป็นใช้กับรถรับส่งสาธารณะที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงผนวกกับการใช้เทคโนโลยีที่สามารถจัดเส้นทางสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปในเส้นทางที่ไม่ไกลกันมาก
ทำให้สามารถรับส่งผู้โดยสารได้หลายคนในเวลาเดียว แถมราคายังถูกกว่า ride–hailing ด้วย ซึ่งในหลายเมืองที่ทดลองใช้ on–demand transit พบว่าสามารถลดปัญหาลงได้หลายด้าน เช่น on–demand transit สามารถทำให้ผู้โดยสารหลายคนเดินทางไปในรถคันเดียวกันได้ ทำให้ระยะทางและปริมาณการปล่อยมลภาวะต่อจำนวนผู้โดยสารลดลงตามไปด้วยเมื่อเทียบกับการเดินทางคนเดียว
เทรนด์ของ on–demand จะยังคงไม่หยุดแค่นี้และได้ขยายไปสู่การใช้บริการต่างๆ ในชีวิตประจำวันอื่นๆ ด้วย ทั้งการส่งของ ส่งอาหาร ซัก-รีดผ้า ทำความสะอาด และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ชอบความสะดวกสบายอย่างพวกเรา ดังนั้น ไม่ว่าในธุรกิจไหนก็ต้องพร้อมปรับตัวกันให้ทัน แต่ขณะเดียวกัน เราจะตามใจลูกค้าอย่างเดียวก็ไม่ได้ ต้องดูผลกระทบหลายๆ ด้านด้วย ธุรกิจถึงจะเติบโตอย่างยั่งยืน
จัดทำโดย โครงการเอ็กสเพรสโซ
