Generic selectors
Exact matches only
Search in title
Search in content
Post Type Selectors

[เจาะลึก] 5 ธุรกิจที่น่าสนใจควรค่าแก่การลงทุนในปี 2021

SHARE

ทุกวิกฤตจะมีโอกาสและทุกโอกาสจะต้องมีผู้ที่มีความสามารถได้ประโยชน์เสมอ ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของเราไม่ได้ส่งผลให้กิจการปิดตัวเพียงอย่างเดียว แต่ทำให้เราเห็นกิจการเกิดใหม่มากมายหลากหลายรูปแบบ ธุรกิจที่น่าสนใจในปัจจุบันมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมๆ กันเลย

5 ธุรกิจที่น่าสนใจ ปี 2021

1.ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม

เรื่องนี้อาจสวนทางกับกระแสที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับการปิดตัวลงของร้านอาหารหลายร้านท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด จนกลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่แม้แต่แบรนด์ยักษ์จากต่างประเทศยังต้องครั่นคร้าม ทว่าสิ่งที่เรากำลังพูดถึงคือปี 2021 หรือคือ อนาคต

มีปัจจัยที่น่าสังเกตอยู่ 3 ข้อจากเรื่องนี้

1.การแข่งขันครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ท่ามกลางร้านอาหารที่ปิดตัวลง ยังมีร้านที่เปิดขึ้นมาและสามารถทำกำไรได้ แม้ว่าจะไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ โดยเฉพาะหลังจากล็อกดาวน์ทีหลายคนฝึกทำอาหารมาแล้ว แต่คนเหล่านั้นก็ยังโหยหารสชาติอื่นๆ นอกจากสิ่งที่ตนเองปรุงได้อยู่ดี

ทว่าการทำธุรกิจอาหารครั้งนี้แค่การทำร้านอาหารแบบเดิมๆ คงไม่ใช่คำตอบ สิ่งที่ต้องคำนึงยังคงมีการทำแบรนด์ดิ้งเพื่อทำให้ร้านเข้าถึงง่าย การใช้แพลตฟอร์มส่งอาหารอย่าง Grab, Lineman หรือ FoodPanda เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น 

2.การกลับมาของลูกค้าหลังจาก Covid-19 โรคระบาดดังกล่าวส่งผลร้ายแรงทั่วโลก ทำให้กำลังซื้อนั้นหดตัวลงจากหลายปลายประเทศ แต่ก็เปรียบเสมือนกับการ ‘อั้น’ ของปริมาณนักท่องเที่ยวเช่นกัน หากมีวัคซีนและการจัดการที่ดีพอ ก็มีโอกาสที่ปริมาณลูกค้าจะกลับมาไม่น้อย เพราะไทยเองก็ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายแรกๆ ของนักท่องเที่ยว

กระนั้นจากการประเมินของ KKP Research นักท่องเที่ยวในปี 2021 อาจอยู่ที่ประมาณ 6.4 ล้านคนจากเดิม 17 ล้านคน แต่ก็นับเป็นทิศทางบวกหากเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ปริมาณนักท่องเที่ยวเกือบจะไม่มีเลย

ธุรกิจที่น่าสนใจ

3.การเข้าถึงลูกค้าที่เฉพาะกลุ่มมากขึ้น ปัจจัยนี้อาจสำคัญที่สุดทั้งปีนี้และปีหน้า เราอาจเห็นว่าไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรจะมีร้านหลายร้านที่ ‘ขายได้’ อยู่ตลอด แม้ว่ายอดอาจลดลงบ้างก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น

  • ร้านอาหารแบบ ‘เดลิเวอรี่โดยเฉพาะ’ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เน้นการเชื่อมกับแพลตฟอร์มขนส่งอาหาร ทำให้ลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น ในขณะเดียวกันเจ้าของร้านก็ไม่จำเป็นต้องรับลูกค้าหน้าร้านเอง โดยรูปแบบการทำร้านแบบนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นทั้งจากในไทยและต่างประเทศ
  • ร้านอาหารตามพื้นที่ออฟฟิศของชุมชนเมืองใหญ่ๆ ที่แม้ว่าจะมีแพลตฟอร์มการขนส่งอาหารที่มากมาย แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดรวมถึงค่าส่งที่สูงในหลายๆ จุด ทำให้คนเลือกจะทานอาหารง่ายๆ ใกล้ที่ทำงานตัวเอง
  • ร้านอาหารที่เน้นลูกค้าแบบ Hi-end โดยเฉพาะ เช่น บุฟเฟต์ราคาสูง เชฟเทเบิล หรือโอมาคาเสะ ซึ่งมีฐานลูกค้าประจำอยู่แล้วรวมถึงลูกค้าที่อยากทานอาหารแบบ ‘นานๆ กินของแพงสักที’
  • อาหารที่มีความ ‘แปลกใหม่’ ในตัวเอง เนื่องจากบรรดา Foodie หลายกลุ่มไม่สามารถออกนอกประเทศได้ การเลือกทานอาหารที่หาทานได้ยากในประเทศจึงกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เช่น อาหารกรีก อาหารตุรกี อาหารเอธิโอเปีย หรือแม้แต่ร้านอาหารที่มีเมนู Plant based protein ก็โดดเด่นออกมาด้วยเหตุผลดังกล่าวเช่นกัน 
  • ร้านอาหารเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เทรนด์ช่วงปี 2019-2020 ที่ยังคงสืบเนื่องไปยังปีหน้า การเอาใจใส่สุขภาพด้วยการออกแบบเมนูเพื่อสุขภาพรวมถึงการใช้แพ็คเกจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความใส่ใจ 

จะสังเกตได้ว่าตัวอย่างที่ยกมานั้นจะมีฐานลูกค้าประจำของตัวเองอยู่แล้ว และสามารถขยายฐานลูกค้าได้ระดับหนึ่งด้วยการโปรโมตตามช่องทางต่างๆ 

ด้วยเหตุผลทั้งหมดจึงนับได้ว่าธุรกิจเกี่ยวกับอาหารคือธุรกิจที่น่าสนใจภายใต้ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ปัจจุบัน แต่กระนั้นคนทำธุรกิจอาหารอาจต้องมีความรัดกุมในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางสภาพเศรษฐกิจ

2.ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ 

2021 คือปีที่ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากกว่า 13 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมดในประเทศ แต่แน่นอนว่าความตื่นตัวในธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุในบ้านเรายังคงต่ำมากๆ และโดยส่วนมากคนจะมองแค่ “บ้านพักคนชรา” หรือธุรกิจประเภท Elderly Care Business  เป็นหลักใหญ่ แต่จริงๆ แล้วเรื่องของธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุมีอะไรมากกว่านั้นอีก

ธุรกิจที่น่าสนใจ

ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและมีรสชาติอร่อย เริ่มเป็นที่จับตามองของตลาด การเข้ามาเจาะกลุ่มผู้ซื้อในมุมนี้อาจสามารถขยายฐานลูกค้าได้ไม่น้อย 

ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ขึ้นชื่อว่าเหมาะสมกับผู้สูงอายุยังมีไม่มากพอและการทำตลาดไม่ค่อยเข้มข้นเท่าที่ควร และหากมีก็มักจะเป็นแบรนด์ใหญ่ๆ การเข้ามาเป็น “ทางเลือก” ให้กับผู้บริโภคในมุมนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย

ธุรกิจความงาม ความแก่เป็นแค่คำพูดและอายุก็เป็นเพียงแค่ตัวเลข ยังมีผู้สูงอายุอีกมากมายที่สามารถรักษาสไตล์ของตนเองเอาไว้ได้ ทั้งเครื่องสำอาง เครื่องแต่งกาย จนถึงธุรกิจประเภทสปา การทำธุรกิจความงามที่เน้นกลุ่มลูกค้าเป็นผู้สูงอายุอาจเป็นคำตอบในปี 2021

ตัวอย่างที่เอ่ยมานั้นยังเป็นเพียงส่วนเดียว ยังมีธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุอีกมากมายที่ยังไม่มีในตลาดหรือขาดช่วงไปเพราะโรคระบาดอย่างธุรกิจการท่องเที่ยว แม้ว่าปริมาณของลูกค้าประเภทนี้จะเพิ่มมากขึ้น คงต้องจับตาดูกันว่าจะมีสินค้าและบริการแบบไหนที่เกิดขึ้นในอนาคต

3.ธุรกิจเกี่ยวกับของแต่งบ้าน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสถานการณ์ปัจจุบันส่งผลให้การ Work from home กลายเป็นเรื่องธรรมดา หลายบริษัทได้มีการบรรจุเรื่องนี้เป็นหนึ่งในมาตรการการทำงานด้วยซ้ำ ซึ่งการทำงานที่บ้านนี่เองอาจทำให้คนจำนวนไม่น้อยมองบ้านของตัวเองแตกต่างออกไปจากเดิม ทั้งจุดที่ควรปรับปรุง ซ่อมแซม หรือแก้ไข

ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับของแต่งบ้านประเภทต่างๆ รวมถึงอุปกรณ์ประเภท D.I.Y ที่สนับสนุนซ่อมและตกแต่งได้ด้วยตัวเองมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังข้อมูลที่ปรากฎ

  • อิเกียออนไลน์ เติบโตสูงขึ้น 320% 
  • NocNoc.com มียอดขายผ่านเว็บไซต์โตขึ้น 3.3 เท่า
  • Homepro มีรายได้จากช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น 150%

ขอบคุณข้อมูลจาก Marketeeronline

แน่นอนว่าไม่ใช่แค่แบรนด์ใหญ่ สินค้าจากผู้ประกอบการรายย่อย ที่มีความโดดเด่น เฉพาะตัว รวมถึงสินค้าประเภทงานฝีมือ มีโอกาสที่จะเติบโตสูงเช่นกัน 

อีกกระแสที่กำลังมาเกี่ยวกับการแต่งบ้านคือการใช้สินค้ารักษ์โลก เพื่อการใช้งานและการตกแต่งและใช้งานภายในบ้าน ยกตัวอย่างเช่นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพ ความทนทานสูง สามารถนำมารีไซเคิลได้ หรือสินค้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลจากที่ต่างๆ 

 4.ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์และจัดการข้อมูล

ในปัจจุบันการทำธุรกิจของไทยโดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดเล็กค่อนข้างขาดความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีและการจัดการข้อมูลให้เป็นประโยชน์ ทว่าในอนาคตเรื่องดังกล่าวก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะเปลี่ยนไป 

ธุรกิจที่น่าสนใจ

ข้อมูลปริมาณมหาศาลและข่าวเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลเป็นแรงกระตุ้นให้เกิด ‘ความต้องการในการใช้เทคโนโลยี’ กับผู้คนปัจจุบัน ทำให้ 2021 อาจเป็นหนึ่งในปีที่เทคโนโลยีวิเคราะห์และการจัดการข้อมูลบูมขึ้นมาสุดๆ ก็เป็นได้ เนื่องจากผู้ใช้งานหลากหลายรูปแบบต้องการทำให้งานตัวเองออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด ตรงจุดที่สุด โดยเฉพาะในไทยที่ยังนับว่าบริษัทที่ครองตลาดการจัดการข้อมูลค่อนข้างขาดความโดดเด่นเมื่อมองจากมุมของคนนอก 

ธุรกิจการให้บริการเก็บข้อมูล จัดการข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาใช้งานร่วมกับธุรกิจ จึงกลายเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอย่างมากในปี 2021 

ทว่าธุรกิจดังกล่าวก็ยังมีจุดที่ต้องจับตาอยู่ นั่นคือการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้า ยิ่งเศรษฐกิจหวนกลับมาได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่การใช้งานเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งการหาบุคลากรในสายงานนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก แต่ถ้าหากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องพร้อมสรรพก็สามารถพูดได้เลยว่าธุรกิจนี้ ‘มีอนาคต’ อย่างแน่นอน

5.ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

ช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาด ทำให้หลายต่อหลายคนต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและต้องการเพื่อนคลายเหงา และสัตว์เลี้ยงก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำให้เราพบเห็นคนเลี้ยงน้องหมาน้องแมวเพิ่มขึ้นมากมาย ซึ่งจากสถิติของ Royal Canin เพียงช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีสุนัขและแมวในประเทศรวมกว่า 21 ล้านตัว และทัศนคติของคนสมัยใหม่ ทำให้เขาเหล่านั้นมีความรับผิดชอบในการเลี้ยง และเลี้ยงในบริเวณจำกัดมากขึ้น 

ธุรกิจที่น่าสนใจ

สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เช่น 

  • การรับฝากสัตว์เลี้ยง 
  • อาหารสัตว์ 
  • ของเล่นสัตว์เลี้ยง 
  • แอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
  • อุปกรณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เช่น สายจูง ปลอกคอ

ธุรกิจทั้งหมดเกิดการเติบโตขึ้นอย่างมากภายในประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มีแค่แบรนด์ใหญ่เท่านั้น แม้แต่รายย่อยเองก็ยังมีโอกาสเติบโตในธุรกิจดังกล่าวโดยเฉพาะธุรกิจการรับฝากสัตว์เลี้ยง เมื่อคนยุคนี้​ “ไม่มีเวลา” มากขึ้น จากการทำงานและกิจกรรมต่างๆ การมีคนเป็นเพื่อนน้องหมาน้องแมวจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

สรุป

5 ธุรกิจที่ยกตัวอย่างขึ้นมานั้นเป็นเพียงตัวอย่างธุรกิจภายใต้ความเป็นไปได้ของปี 2021 เท่านั้น ยังมีธุรกิจอีกหลากหลายประเภทที่สามารถก้าวขึ้นมาเติบโตได้ แต่แน่นอนว่ามันย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ เพราะต่อให้เราเตรียมตัวมาดีแค่ไหนแต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าอนาคตจะแปรเปลี่ยนไปในรูปแบบไหน

การลงทุนที่ดีที่สุดนั้นเราจำเป็นต้องเลือกธุรกิจที่เหมาะสมกับตนเอง มีความรัดกุมทางการเงิน และสามารถต่อยอดได้ เพื่อทำให้เราสามารถทำธุรกิจเติบโตได้อย่างสบายใจในปีหน้า

PTT-ebook-2-startup

เปิดเทรนด์ Blockchain การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในปี 2021

SHARE

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดกำเนิดความน่าสนใจของเทคโนโลยี Blockchain ในสายตาคนทั่วไปคือเหล่าเงินดิจิทัล Cryptocurrency ที่เคยพุ่งกระฉูดเมื่อช่วงปี 2018 แต่แท้จริงแล้วเทคโนโลยีนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลายกว่าการเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเพียงอย่างเดียว เนื่องจากตัวของ Blockchain คือการเก็บข้อมูลโดยไม่ใช้ศูนย์กลาง ย้อนกลับไม่ได้ แก้ไขได้ยาก สามารถตรวจสอบได้ 

นั่นหมายความว่า งานอะไรก็ตามที่ใช้ข้อมูล มีโอกาสที่ Blockchain จะเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีข่าวในไทยออกมากนักก็ไม่ได้หมายความว่าในระดับโลกไม่มีการใช้งาน กลับกัน ความนิยมของ Blockchain ตามประเทศต่างๆ กลับพุ่งสูงอย่างไม่น่าเชื่อ 

เทรนด์ Blockchain ในปี 2021

การใช้งาน Blockchain as a Service (Baas) 

Blockchain จะไม่ไกลตัวคนอีกต่อไป แต่จะถูกประยุกต์ให้ใครใช้งานก็ได้ตามหลักบริการอย่าง Cloud Computing ในช่วงปี 2020 ก็มีบริษัทด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่มากมายเข้ามาให้บริการนี้ ไม่ว่าจะเป็น Amazon Web Services (AWS), IBM Blockchain Platform, Microsoft Azure และ Alibaba Cloud Blockchain as a Service 

จากแนวโน้มดังกล่าว จึงระบุได้ว่าในอนาคตนอกเหนือจากบริษัทใหญ่เหล่านี้ ย่อมมีบริษัทเล็กๆ เริ่มเปิดให้บริการเกี่ยวกับ Blockchain เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายในการใช้งานอีกแน่นอน ซึ่งเพิ่มความเฉพาะทางมากขึ้น และมาพร้อมกับราคาบริการที่ถูกลง

สกุลเงินดิจิทัลที่ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ 

Bitcoin อาจเป็นชื่อที่คุ้นหูเรามากที่สุดในฐานะ Cryptocurrency หรือ “ทอง” ท่ามกลางสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสกุลเงินอื่นๆ เข้ามามีบทบาทในอนาคต โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เทคโนโลยี Blockchain มีการพัฒนามากขึ้น

Blockchain

2021 จึงเป็นอีกปีที่ผู้อยู่ในวงการ Blockchain คาดการณ์ว่าสกุลเงิน Cryptocurrency เหล่านี้จะเปลี่ยนบทบาทจาก “การเก็งกำไร” ที่เราเห็นได้ในปัจจุบัน เป็นการใช้จ่ายจริงๆ โดยเฉพาะสกุลเงิน LIBRA ของทาง Facebook ที่ระบุว่าตัวเองเป็น Stable Coin ที่มีสินทรัพย์จริงรองรับ และมีการร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอื่นๆ มากมาย

สำหรับในไทยเองก็มีโครงการอินทนนท์ ที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลซึ่งประยุกต์ใช้ระบบ Blockchain เช่นกัน โดยเราอาจเห็นความคืบหน้าในการใช้งานในเวลาอันใกล้นี้

การเก็บข้อมูลของหน่วยงานต่างๆ จะใช้ Blockchain มากขึ้น

การจัดการข้อมูลแบบไม่มีศูนย์กลางคือสิ่งที่ตอบโจทย์ด้านความโปร่งใสมากที่สุด ดังนั้นการประยุกต์เข้ามาใช้กับหน่วยงานรัฐ เอกชน และโรงพยาบาลต่างๆ ในระดับสากลจึงถือเป็นคำตอบที่เหมาะสมอย่างยิ่ง 

แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นักสำหรับในไทย ทว่าบุคลากรในหน่วยงานสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ก็เคยให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ช่วงปี 2017 ถึงความเป็นไปได้ในการใช้งาน ก็อาจต้องติดตามกันในระยะยาวว่า ช่วงเวลาใดกันแน่ที่จะมีการผลักดันเทคโนโลยีดังกล่าวสำหรับหน่วยงานรัฐเพื่อการพัฒนาด้านข้อมูลที่ดียิ่งขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้น

Blockchain

การ “เปลี่ยน” ระบบ Blockchain ขนาดใหญ่

เรื่องนี้ถูกคาดการณ์โดย Adrian Lee ผู้เป็น Senior Research Director ของ Gartner บริษัทวิจัยด้านไอที ตั้งแต่ช่วงปี 2019 ว่าการใช้งาน Blockchain ของหลายๆ บริษัทนั้นขาดความรู้ความเข้าใจว่าจะสามารถเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างไร ด้วยสาเหตุนั้นเองทำให้ในอนาคตเราอาจได้เห็นการ “ยกเครื่อง” ระบบฐานข้อมูลของบริษัทที่ใช้ Blockchain ในปัจจุบัน ซึ่งน่าจับตามองว่าจะมีบริษัทไหนมีการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบนี้บ้าง 

การร่วมมือกันระหว่างระบบที่มากขึ้น

ยิ่งผู้ใช้บริการมากเท่าไหร่ ก็ย่อมมีผู้ให้บริการมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และสิ่งที่ตามมาก็คือระบบที่แตกต่างระหว่างบริษัทที่อาจส่งผลกระทบระยะยาวเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลได้ โดยในอนาคตปี 2021 เราอาจได้เห็นภาพของระบบที่แตกต่างสามารถใช้งานได้ร่วมกันมากขึ้น

Blockchain

ข้อควรรู้ก่อนเริ่มประยุกต์ใช้งาน Blockchain 

Blockchain เหมาะกับการทำงานของเรามากแค่ไหน

การใช้งาน Blockchain นั้นครอบคลุมแทบทุกอุตสาหกรรมก็จริง ทว่าก่อนที่จะเริ่มประยุกต์ใช้งานเข้ากับบริษัท เราอาจต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าในบริบทการทำงานของบริษัทนั้น “จำเป็นมากขนาดไหน” ที่จะต้องใช้ Blockchain เพราะในการทำงานที่ดีนั้นควรเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะมากกว่าเทคโนโลยีที่ใหม่ 

เลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้

การใช้งาน Blockchain ณ ปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการที่หลากหลายระดับหนึ่งอยู่แล้ว หากในปีต่อๆ ไปจะมีการดำเนินงานในด้านนี้ อาจต้องมีการตรวจสอบผู้ให้บริการ รวมถึง Services ที่รองรับให้ละเอียดขึ้น เนื่องจากผู้ให้บริการแต่ละเจ้าก็จะมีความถนัดและราคาที่แตกต่างกันออกไป 

การใช้งาน Blockchain กับประเทศไทย 

จะเห็นได้ว่า แม้จะไม่ได้มีการโปรโมทอย่างเป็นทางการมากแต่ก็มีแผนการการใช้งาน Blockchain ในประเทศไทยอยู่มากพอสมควร และบางส่วนเริ่มดำเนินการไปแล้ว เช่นโครงการอินทนนท์ของธนาคารกลางที่ทดลองดำเนินการธุรกรรมกันแล้ว 

นอกจากในส่วนของธนาคารแล้ว Blockchain เองก็จะเข้ามามีบทบาทด้านพลังงานในไทยด้วย โดยทาง PTT มีการจับมือกัน Energy Web Foundation (EWF) บริษัทด้าน Blockchain ที่มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน เพื่อพัฒนาระบบที่เกี่ยวกับพลังงานทดแทน นอกเหนือจากนั้นยังมีการร่วมมือกับธนาคาร 22 ธนาคาร เพื่อพัฒนาหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย ซึ่งในปี 2021 ก็มีโอกาสที่ blockchain จะขยายความเป็นไปได้มากขึ้นไปอีกทั้งไทยและต่างประเทศ

New call-to-action

  • SUBSCRIBE TO BE
    THE FIRST INNOVATOR.

logo