Internet of Behavior ได้รับการขนานนามว่าเป็นเทรนด์เทคโนโลยีอันดับต้นๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ธุรกิจมีโอกาสรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าได้มากขึ้น โดย Gartner คาดว่าภายในปี 2023 ผู้คนทั่วโลกประมาณ 40% จะถูกติดตามพฤติกรรมผ่านทาง Internet of Behavior
บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักว่า Internet of Behavior คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญ? และธุรกิจต่างๆ จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร
Internet of Behavior คืออะไร?
Internet of Behavior หรือ IoB คือ การวิเคราะห์ ตอบสนอง และทำความเข้าใจข้อมูลเชิงพฤติกรรมทุกประเภทที่รวบรวมจาก Internet of Things และแหล่งอื่นๆ เช่น อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ การทำธุรกรรมออนไลน์และกิจกรรมทางโซเชียลมีเดีย เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า นอกจากนี้ ยังช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถตัดสินใจและวางแผนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีข้อมูลสนับสนุนมากขึ้นด้วย
เมื่อบทบาทของ Internet of Things ได้ขยายไปสู่ Internet of Behavior บริษัทต่างๆ จึงสามารถถอดรหัสพฤติกรรมของลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วยการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคตั้งแต่ความชอบ พฤติกรรม นิสัย และความต้องการในด้านต่างๆ ที่นำไปใช้ประโยชน์ในการออกแบบและมอบประสบการณ์ส่วนบุคคลให้กับลูกค้าได้จริง
ธุรกิจในยุคปัจจุบันจึงต้องรู้จักใช้ข้อมูลเชิงลึกอย่างมีกลยุทธ์ผ่านเทคโนโลยี Internet of Behavior ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ พิจารณาข้อเสนอแนะ สร้างแบบจำลองเพื่อคาดการณ์ล่วงหน้า รวมทั้งวางแผนด้านกลยุทธ์ ปรับปรุงการมีส่วนร่วมและรักษาลูกค้า เพื่อปลดล็อกการเติบโตของยอดขายและสร้างผลกำไรของธุรกิจให้ได้มากที่สุด
ความสำคัญของ Internet of Behavior
Internet of Behavior เป็นเทคโนโลยีสำคัญในการปรับโครงสร้างระบบธุรกิจและ Workflow เพราะธุรกิจที่ชาญฉลาดมักจะขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นแกนหลักเพื่อคลายความซับซ้อนของพฤติกรรมผู้บริโภค สามารถระบุแนวโน้มของตลาดด้วยความเข้าใจ อีกทั้งยังใช้ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพและความสำเร็จของกลยุทธ์ทางการตลาดได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนของธุรกิจให้น้อยลงและประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้มากขึ้น
นอกจากนี้ Internet of Behavior ยังช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าจากจุดที่ลูกค้าติดต่อในจุดต่างๆ และสำรวจประสบการณ์ของลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งในด้านความสนใจ, เส้นทางของผู้บริโภค หรือที่เรียกว่า Customer Journey, วิธีการและปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการโดยรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจากหลายแหล่ง ซึ่งการรู้ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสร้างจุดติดต่อใหม่ๆ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับลูกค้าในเชิงบวก รวมทั้งสามารถปรับปรุงคุณภาพของสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไม่เพียงแค่นั้น Internet of Behavior ยังมีประโยชน์อีกหลายประการ ดังนี้
- ช่วยให้ธุรกิจแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดจนลูกค้าพึงพอใจและปิดการขายได้มากขึ้น
- ช่วยประหยัดเวลาในการสำรวจและรวบรวมข้อมูลจากลูกค้าจำนวนมาก
- ใช้วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าและพฤติกรรมการซื้อที่ผ่านมา
- เข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจะโต้ตอบกับธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการของคุณ
- ตรวจสอบและคาดการณ์กำลังซื้อของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น
- ส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ให้กับลูกค้าเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษ โปรโมชันล่าสุด หรือแม้แต่การยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้
ตัวอย่างการใช้ประโยชน์จาก Internet of Behavior
ปัจจุบันมีการประยุกต์ใช้ Internet of Behavior ในธุรกิจมากมาย ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทและเป้าหมายทางธุรกิจของคุณเองได้
ต่อไปนี้ คือตัวอย่างที่น่าสนใจของการใช้ประโยชน์จาก Internet of Behavior ในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก
- Facebook และ Google นำข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานมาวิเคราะห์เพื่อแสดงโฆษณาให้สอดคล้องตามความสนใจของแต่ละบุคคล ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจที่ลงโฆษณาสามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มอัตราการคลิกผ่าน (CTR) ได้มากขึ้น
- YouTube ติดตามข้อมูลพฤติกรรมการรับชมคลิปวิดีโอของผู้ใช้ เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงประสบการณ์ให้แก่ผู้ชมในระดับบุคคล เช่น การแนะนำคลิปวิดีโอที่คาดว่าจะสนใจ
- Siri, Google Home และ Alexa เป็นเทคโนโลยีที่อาศัย Internet of Behavior ในการเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้สามารถตอบสนองความต้องการได้ดียิ่งขึ้น
สรุป
Internet of Behavior เป็นเทคโนโลยีที่มีความสำคัญอย่างมากต่อทุกธุรกิจในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ใช้ ช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ตลอด Customer Journey รวมทั้งเป็นตัวขับเคลื่อนการวางแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ดังนั้น ธุรกิจที่สามารถนำข้อมูลพฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้าที่ได้จาก Internet of Behavior ไปประยุกต์ใช้จึงมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จสูง ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและตอบโจทย์ให้กับทั้งลูกค้าและธุรกิจของคุณได้อย่างไม่สิ้นสุด
คุณสามารถอัปเดตคอนเทนต์เกี่ยวกับธุรกิจ Startup สิ่งแวดล้อม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อความรู้ความเข้าใจที่ครอบคลุมมากขึ้นได้ที่ Facebook PTT Expresso
