เชื่อหรือไม่? MarTech แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน และบางครั้งเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่แตะมัน เสมือนกับอาวุธประจำตัวที่ต้องพกไว้ตลอดเวลา แถมบางอันยังทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย
บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ MarTech ว่าคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ พร้อม 6 MarTech ที่สำคัญกับการทำ Marketing ปี 2022
MarTech คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ
MarTech ย่อมาจาก Marketing Technology คือ ซอฟต์แวร์ เครื่องมือ หรือเทคโนโลยีใด ๆ ก็ตามที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหรือแก้ไขปัญหาในการทำการตลาดและธุรกิจ เพื่อให้แบรนด์สร้างโอกาสในการขายมากขึ้น ได้เปรียบในการแข่งขัน และสามารถดึงดูดทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ได้เรื่อย ๆ
บาง MarTech เราอาจคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและใช้กันโดยไม่รู้ตัว เช่น MailChimp, Canva, WordPress หรือแม้แต่เครื่องมือสื่อสารในองค์กรอย่าง Slack และตัวช่วยจัดระเบียบการทำงานอย่าง ClickUp นั่นเอง
ทำไม MarTech ถึงสำคัญ
MarTech มีความสำคัญกับ Digital Marketing มากขนาดที่ว่า “บางตัวไม่ใช้ไม่ได้” เพราะมีโอกาสสูงที่จะตามไม่ทันคู่แข่ง หรือทำให้งานผิดพลาดบ่อยและล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
อีกหนึ่งเหตุผลที่ควรใช้ MarTech ในการทำการตลาดก็เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ โดยเฉพาะการลดกระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน ซึ่งระบบอัตโนมัติจะช่วยให้เราทำงานได้รวดเร็วขึ้น
ส่วนในมุมของเจ้าของธุรกิจ แม้ MarTech จะมีค่าบริการ แต่อาจประหยัดกว่าการจ้างคนเพิ่ม ซึ่งบางที MarTech อาจทำงานได้ดีและรวดเร็วกว่า
6 MarTech ที่สำคัญกับการทำ Marketing ปี 2022
จากรายงาน The State of Martech 2022 ทาง Chiefmartech และ MartechTribe ได้จัดหมวดหมู่ของ Martech ปี 2022 ที่สำคัญเอาไว้ถึง 6 หมวดหมู่ใหญ่ ๆ ด้วยกัน ดังนี้
1. Advertising & Promotion
Advertising & Promotion เป็นหนึ่งใน MarTech ที่มีความสำคัญกับการทำการตลาดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีความรู้เฉพาะบุคคลสูง ไม่ว่าจะทำโฆษณารูปแบบใด ช่องทางไหน เจอปัญหาเข้าไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย หรือเสียเวลามากไปกับการ Optimize Ads MarTech เหล่านี้จะคอยให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ
ตัวอย่าง MarTech
- Search & Social Advertising: Google Ads, Meta Business Suite, TikTok for Business หรือ LINE For Business
- Display & Programmatic Advertising: Madgicx, AdEspresso หรือ Revealbot
- Video Advertising: YouTube, Peach หรือ Vi
- Mobile Marketing: Google AdMob, Avidmobile หรือ WhatsApp
2. Content & Experience
MarTech กลุ่มนี้แก้ปัญหาเกี่ยวกับการจัดการคอนเทนต์เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการทำการตลาดที่แบรนด์ขาดไม่ได้ มีตั้งแต่ MarTech ที่ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์และการอัปเดตคอนเทนต์เป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องพึ่งพา Developer MarTech ที่คนทั่วไปสามารถออกแบบรูปภาพหรือตัดต่อวิดีโอได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกดีไซน์ MarTech ที่ช่วยทำให้คอนเทนต์ติดหน้าแรกบน Search Engine เพื่อให้มีคนคลิก
นอกจากนี้ ยังมี MarTech ที่ส่งอีเมลได้ครั้งละมาก ๆ และวัดผลได้ ซึ่งระบบปกติจะส่งได้ครั้งละหลักร้อยต่อวันเท่านั้น แถมวัดผลไม่ได้อีกด้วย จะเรียกว่า MarTech กลุ่มนี้ตอบโจทย์ตั้งแต่การสร้างไปจนถึงการส่งคอนเทนต์เลยก็ได้
ตัวอย่าง MarTech
- CMS: WordPress, WIX หรือ MakeWebEasy
- Content Design: Canva, Issuu, Piktochart หรือ VistaCreate
- Email Marketing: MailChimp, Taximail หรือ MailerLite
- Marketing Automation: ActiveCampaign, HubSpot, Sendinblue หรือ PAM
- SEO: Ahrefs, SEMRush, Rio SEO หรือ Ubersuggest
3. Social & Relationships
เมื่อทำการตลาดบนโซเชียลมีเดียจะขาด MarTech กลุ่มนี้ไม่ได้เช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ปัญหามักเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้เสียลูกค้าไปโดยใช่เหตุ ยิ่งแบรนด์ไหนทำการตลาดหลายแพลตฟอร์มด้วยแล้ว ยิ่งต้องพึ่งพา MarTech กลุ่มนี้มาก ๆ เพราะบางตัวช่วยให้เราไม่ต้องจัดการโซเชียลมีเดียทีละแพลตฟอร์ม ซัพพอร์ตลูกค้าทุกช่องทางได้ง่ายขึ้น หรือเก็บข้อมูลลูกค้าได้ครบถ้วนเพื่อนำไปต่อยอดและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ กรณีที่เป็นการซื้อขายตั๋วหรือบัตรเข้าชมจำนวนมาก ยังมี MarTech ที่ช่วยซัพพอร์ตไม่ให้ระบบล่มซึ่งทำให้การซื้อขายราบรื่นอีกด้วย หากอยากรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว MarTech กลุ่มนี้ถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณ
ตัวอย่าง MarTech
- CRM: Salesforce, Hubspot, R-CRM, ChocoCRM หรือ Primo
- Event, Meeting & Webinars: Zipevent, Eventpop, StreamYard หรือ Zoom
- Social Media Management: Hootsuite, Buffer หรือ Pluber
- Influencers: Affable.ai, Tellscore หรือ SocialBook
4. Commerce & Sales
MarTech กลุ่ม Commerce & Sales เกิดขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับธุรกิจ E-Commerce ซึ่งหนึ่งในปัญหายอดนิยม คือ การสร้างเว็บไซต์ที่ยุ่งยากและใช้ต้นทุนสูง เนื่องจากต้องจ้างคนออกแบบเว็บไซต์ MarTech กลุ่มนี้จึงออกแบบให้คนทั่วไปสามารถสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องมีทักษะในด้านนี้แม้แต่นิดเดียว
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ ที่อุดช่องโหว่จากสิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้ อย่างการใช้ Chatbot ตอบคำถามลูกค้าเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการขาย เนื่องจากแอดมินไม่สามารถตอบแชตได้ตลอดเวลา หรือจะเป็นตัวช่วยในการส่งของเพื่อให้เราเอาเวลาไปลงแรงในด้านอื่นที่สำคัญกว่า รวมไปถึงเครื่องมือด้าน Affiliate Marketing ที่ช่วยแบรนด์กับผู้ช่วยขายทำการตลาดได้ง่ายและสะดวกขึ้น
ตัวอย่าง MarTech
- E-Commerce Platform & Carts: WooCommerce, Ketshopweb, LnwShop หรือ Shopify
- Chat Commerce: Kaojao, ZWIZ.AI หรือ AIYA
- Affiliate Marketing & Management: Refersion, Involve Asia หรือ Post Affiliate Pro
5. Data
หลายคนคงเคยได้ยินว่าข้อมูลคือขุมทรัพย์ เพราะฉะนั้น ใครมีมากยิ่งได้เปรียบ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม MarTech กลุ่มนี้ถึงสำคัญมาก นั่นก็เพราะบางเครื่องมือทำให้เรารู้ Demographic ของผู้ใช้ รู้ช่องทางที่พวกเขาเข้าถึง (เว็บไซต์/แอปพลิเคชัน/โซเชียลมีเดีย) และรู้ว่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ หรือพูดถึงแบรนด์เราอย่างไรบ้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำไปทำการตลาดต่อได้
ที่สำคัญ คือ บางตัวช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการทํา Digital Marketing ของตัวเองได้ดีขึ้น รู้ว่าคอนเทนต์แบบไหน Engagement ดี แบบไหนคนซื้อสินค้า/บริการเยอะ แถมบางตัวยังเชื่อมต่อและส่งข้อมูลระหว่าง Martech โดยไม่ต้องพึ่ง Developer แม้แต่คนเดียวได้อีกด้วย
ตัวอย่าง MarTech
- Analytics: Google Analytics, Google Search Console หรือ Fathom
- Marketing/Business Dashboard: Microsoft PowerBI, Data Studio หรือ TapClicks
- Social Listening: Zanroo, Mention, TweetReach หรือ DOM
- Business Automation: Automate, Zapier หรือ Pabbly
6. Management
ทุกขั้นตอนการทำการตลาดควรมีการจัดการที่ดีเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว บ่อยครั้งเราจึงจำเป็นต้องพึ่งพา MarTech เพื่อให้ทำงานง่ายขึ้นและเกิดปัญหาน้อยลง โดยเฉพาะระบบการทำงานร่วมกันที่ต้องมีประสิทธิภาพ ระบบการสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว ไม่สับสนระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน รวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ที่บ่งบอกว่า “ใคร ๆ ก็ทำได้” โดยไม่ต้องเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ อย่างเช่นการทำบัญชี เป็นต้น
ตัวอย่าง MarTech
- Collaboration: Google Workspace, Google Drive, Onboard หรือ Slack
- Project & Workflow: Notion, Basecamp, Trello, Asana หรือ ClickUp
- Budgeting & Finance: Flowaccount, Omise หรือ Poindexter
สรุป
MarTech (Marketing Technology) คือ ซอฟต์แวร์ เครื่องมือ หรือเทคโนโลยีที่ช่วยให้แบรนด์สร้างโอกาสในการขายมากขึ้นและได้เปรียบในการแข่งขัน บาง MarTech ใกล้ตัวกว่าที่คิด! หากขาดไปแล้วยังมีโอกาสทำให้เราเสียเปรียบหรือทำงานได้ไม่ตรงตามเป้าหมายอีกด้วย
ยิ่งในปี 2022 ที่การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ MarTech 6 กลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะช่วยให้เราทำการตลาดได้ดีขึ้น ทำงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน อย่าลืมว่า MarTech ที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่ตัวที่ถูกที่สุดหรือมีฟีเจอร์มากที่สุด แต่เป็นตัวที่เหมาะกับธุรกิจของคุณที่สุดและตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบันกับอนาคตต่างหาก
ติดตามข่าวสารและคอนเทนต์ดี ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมที่คุณไม่ควรพลาด ได้ที่ Facebook PTT ExpresSo
