รู้หรือไม่ 90% ของการสูญเสียพลังงานภายในอาคารเกิดจากผนังหรือหน้าต่างที่เป็นกระจก แม้จะมีเพียงมุมเดียวของอาคาร แต่ก็ทำให้เราสิ้นเปลืองค่าไฟไปอย่างมหาศาลได้เช่นกัน ต่อให้ใช้กระจกกันความร้อนอยู่แล้ว แต่บางชนิดก็เคลือบฟิล์มมืดจนต้องเปิดไฟอยู่ดี กลายเป็นข้อจำกัดของคนที่อยากมีบ้านหรืออาคารที่ตกแต่งด้วยกระจก แต่ข้อจำกัดนี้จะทลายลงถ้าเราได้รู้จักกับ Low-E Glass
Low-E Glass คืออะไร
Low-E Glass (Low-Emissivity Glass) หรือ กระจก Low-E คือ กระจกที่มีความโปร่งใสแต่มีประสิทธิภาพในการกันความร้อนสูงในช่วงฤดูร้อน และมอบความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากแผ่รังสีต่ำ จึงช่วยประหยัดพลังงานภายในอาคาร นอกจากนี้ ความโปร่งใสของ Low-E Glass ยังช่วยเพิ่มแสงสว่างในตอนกลางวันโดยไม่ต้องเปิดไฟอีกด้วย ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนอยากสร้างบ้านหรืออาคารที่มีกระจก นอกจากจะได้ความสวยงามตระการตาแล้ว ยังสามารถช่วยโลกประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง
ทำไม Low-E Glass ถึงกันความร้อนได้ดี
โดยปกติค่าสัมประสิทธิ์การแผ่รังสีความร้อน (Emissivity) จะมีตั้งแต่ 0 (วัตถุมันวาว) ถึง 1 (วัตถุสีดำ) ซึ่งวัตถุประเภทแก้วหรือกระจก (Glass) จะมีค่าสัมประสิทธิ์การแผ่รังสีความร้อนเฉลี่ยอยู่ที่ 0.9 นั่นหมายความว่าความร้อนจะผ่านเข้ามาข้างในได้ถึง 90% เลยทีเดียว เมื่อความร้อนจากภายนอกเข้ามาแล้วจะไม่สามารถผ่านออกไปข้างนอกได้อีก เป็นเหตุผลว่าทำไมห้องที่มีกระจกถึงร้อนมาก
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการพัฒนากระจกเป็น Low-E Glass เพื่อช่วยลดความร้อนที่ผ่านเข้ามา โดยพื้นผิวของกระจกจะมีการเคลือบโลหะอย่างเงิน (Ag) เอาไว้เพื่อให้ค่าสัมประสิทธิ์การแผ่รังสีความร้อนลดลง เนื่องจากเงิน (Ag) มีค่าสัมประสิทธิ์การแผ่รังสีความร้อนอยู่ที่ประมาณ 0.02-0.04 นั่นเอง
Low-E Glass มีกี่ประเภท
1. Hard – Coated Low-E Glass
Low-E Glass ประเภทนี้จะเป็นกระจกแบบเคลือบแข็ง หรือเรียกอีกอย่างว่าเคลือบแบบออนไลน์ ซึ่งจะเป็นการเคลือบสารโดยการพ่นไอโลหะในขณะที่กระจกอยู่ในขั้นตอนการหลอมเหลว
ข้อดีของกระจก Low-E แบบเคลือบแข็ง คือ มีความโปร่งใส ทำให้สัมผัสแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ แถมผิวเคลือบยังแข็งแรง สามารถใช้แบบแผ่นเดี่ยวได้ นอกจากนี้ ยังแปรรูปเป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์และกระจกลามิเนตได้ด้วย
ข้อด้อย คือ ไม่เหมาะกับเมืองร้อนหรืออาคารที่ถูกแสงแดดโดยตรงสักเท่าไร แต่เหมาะกับเมืองหนาวเพราะกักเก็บความอบอุ่นได้ดี ซึ่งช่วยลดค่าไฟเพราะไม่ต้องเปิดฮีตเตอร์
2. Soft – Coated Low-E Glass
Low-E Glass ประเภทนี้จะเป็นกระจกแบบเคลือบอ่อน หรือเรียกอีกอย่างว่าเคลือบแบบออฟไลน์ ซึ่งจะนำกระจกที่หลอมเสร็จแล้วเข้าไปเคลือบโลหะในห้องสุญญากาศโดยใช้ขั้วแม่เหล็กไฟฟ้าช่วยเหนี่ยวนำ โดยเหนือแผ่นกระจกจะมีแท่งโลหะติดเอาไว้ เมื่อปล่อยแก๊สอาร์กอน (Ar) เข้าไปในห้องก็จะถูกเหนี่ยวนำให้กลายเป็นประจุไฟฟ้า จากนั้นประจุของอาร์กอน (Ar) จะลอยขึ้นด้านบนและสนามแม่เหล็กก็จะกระแทกโมเลกุลโลหะตกลงมาฝังที่ผิวของกระจก
ข้อดีของกระจก Low-E แบบเคลือบอ่อน คือ กันความร้อนได้ดีกว่าแบบเคลือบแข็ง
ข้อด้อย คือ ทนต่อรอยขีดข่วนได้น้อยกว่าแบบเคลือบแข็งและไม่สามารถใช้แผ่นเดี่ยว ๆ ได้ ต้องนำกระจก 2 แผ่นมาประกบกัน โดยที่ตรงกลางของกระจกทั้งสองแผ่นจะมีเฟรมอลูมิเนียมกั้น และมีการบรรจุสารดูดความชื้นกับก๊าซเฉื่อยเอาไว้เพื่อลดการเกิดสนิมโลหะ จึงทำให้กระจกหนาและหนักขึ้น ดังนั้น วัสดุที่รองรับกระจกจึงต้องมีความแข็งแรง นำมาซึ่งค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
ข้อดีของ Low-E Glass
- ช่วยลดค่าไฟ เพราะกระจก Low-E แสงผ่านได้มากกว่ากระจก SolarTag Plus* แต่กันความร้อนได้เท่า ๆ กัน จึงไม่จำเป็นต้องเปิดไฟในช่วงเวลากลางวัน และเครื่องปรับอากาศก็ไม่ต้องทำงานหนัก
- มีคุณสมบัติในการเก็บเสียงได้ดี
- สามารถป้องกันรังสี UV ได้เกือบ 100% จึงไม่ทำร้ายเซลล์ผิว และยังป้องกันการซีดจางของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งได้ด้วย
- พลังของสารเคลือบที่ Low-E Glass ทำให้กระจกทนต่อรอยขีดข่วน จึงทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน สะท้อนแสงอาทิตย์ และป้องกันรังสี UV ได้เป็นเวลาหลายปี
- ดูแลรักษาง่าย เนื่องจาก Low-E Glass ป้องกันไม่ให้น้ำเกาะติดกับผิวกระจกในช่วงฤดูฝน
- ลดการควบแน่นที่เกิดจากอากาศอุ่นกระทบกับอากาศภายในที่เย็นกว่า ทำให้หยดน้ำไม่เกาะติดกับกระจก
- คุ้มค่าในระยะยาวเมื่อเทียบกับการติดตั้งกระจกกันความร้อนทั่วไป
*SolarTag Plus คือ กระจกเคลือบฟิล์มที่มีสีสันหลากหลาย เช่น สีเขียว สีฟ้า มักพบเห็นได้ตามอาคารสำนักงานทั่วไป
ข้อด้อยของ Low-E Glass
- ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงเมื่อเทียบกับกระจกกันความร้อนทั่วไป
- ความชัดในการมองเห็นวิวภายนอกจะน้อยกว่ากระจกใสแบบธรรมดา
- Low-E Glass แบบเคลือบแข็งอาจไม่เหมาะกับอาคารที่โดนแดดร้อนส่องโดยตรง
สรุป
Low-E Glass มีคุณสมบุติโปร่งใสแต่กันความร้อนได้ดี เนื่องจากมีการเคลือบเงินที่ผิวกระจกเพื่อให้การแผ่รังสีต่ำ ถือเป็นกระจกช่วยประหยัดพลังงานที่กำลังได้รับความนิยม เพราะไม่ต้องเปิดไฟในยามกลางวันและเครื่องปรับอากาศก็ไม่ต้องทำงานหนัก หากเป็นเมืองหนาวก็ช่วยทำให้บ้านอบอุ่นได้โดยไม่ต้องเปิดฮีตเตอร์ แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง Low-E Glass จะสูง แต่ในระยะยาวถือว่าประหยัดกว่าเมื่อเทียบกับการติดตั้งกระจกกันความร้อนแบบอื่น
ติดตามข่าวสารและคอนเทนต์ดี ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมที่คุณไม่ควรพลาด ได้ที่ Facebook PTT ExpresSo
